วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559

ปฐมเริ่ม "มโน เดอะ ซีรีย์" มโน เนรคุโณ เชิญทัศนา...

จะเล่าเรื่องนายมโน เนรคุโณ ให้ฟัง สำหรับท่านที่เพิ่งจะรู้จักเขา!!

ฟังๆ ทางนี้ เรื่องมโนที่ไม่ต้องมโนเอง 

มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด...!! 


แต่ก่อนเขาเป็นพระชื่อเมตตานันโท 
อยู่วัดพระธรรมกาย ก่อนมาบวชจบแพทย์จุฬา 
ผมรู้จักครั้งแรก ก็เห็นเขาบวชแล้ว 
ผมก็ประทับใจเขามาก คือรู้สึกทึ่ง!!!
ที่ขนาดจบหมอยังมาบวชตลอดชีวิต 
เรียกว่า เขาไปเทศน์ที่ไหน ผมจะต้อง
ไปนั่งฟังเขาเทศน์ เพราะตอนนั้นผม
กำลังสนใจในพระพุทธศาสนา อ่านหนังสือ
เยอะมากกกกกกก... พระรูปไหน
ดูมีความรู้ก็ชอบไปฟัง^^

แรกๆฟังก็สนุกดี เพราะสไตล์การเทศน์
ของพระมโน คือเทศน์แบบเสียดสีคนอื่น 
พร้อมกับยกยอตัวเอง หัวเราะ หึๆ 
และทำปากเหยียดๆคนอื่น ผมยังจำ
หน้าตาเขาได้ดี เป็นพระที่กวนตีนดี 
แต่ตอนนั้นยังนับถืออยู่ ทำอะไรก็ดูน่ารักหมด

ตามไปฟังหลายที่ ก็ได้ความรู้มั่ง 
แต่ก็เริ่มพบความเพี้ยนและหลงตัวเอง
ขนาดหนักของพระมโนเรื่อยๆ !!!

ครั้งแรกฟังที่บ้านหนูแก้ว ตรงสี่พระยา 
ด่าวัดตัวเองว่า "บ้าบุญ" ผมก็คิดในใจ 
คนตั้งใจสั่งสมบุญ เรียกว่าบ้าบุญได้ไง 
พระพุทธเจ้า ก่อนจะตรัสรู้ธรรม ก็ต่าง
สร้างบุญกันอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันทั้งนั้น 
แล้วก็ถามพวกเราว่า ถ้าหมู่คณะ
กำลังจะเดินลงเหว เราจะทำอย่างไร 
พวกเราตอบว่า "ถ้าพวกเราเชื่อในตัวผู้นำ 
เราก็ต้องตามผู้นำ เพราะไม่งั้นก็ต้อง
ไปเป็นผู้นำเสียเอง" พระมโน
ไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มแหยๆ

ถ้าเป็นสมัยนี้ จะย้อนถามพระมโนว่า 
ถ้ามาว่าญาติโยมบ้าบุญ แล้วเงิน
ที่ญาติโยมส่งเสียให้ไปเรียนออกฟอร์ด 
ฮาร์วาร์ด เพื่อหวังจะได้เป็นกำลังแก่พระศาสนา 
คนที่กินใช้เงินญาติโยมแล้วไม่รู้คุณ 
นี่ยิ่งกว่าหมานะ ไม่ใช่แค่บ้า

แล้วเขาก็เล่าเรื่องที่เขาไปงาน
สัมมาพระพุทธศาสนาที่ไหนไม่ทราบ 
ซึ่งเขาชอบไปงานประเภทนี้ เขาก็เล่าว่า 
ที่ประชุมเชิญให้พระไทยจากที่ไหนไม่ทราบ
ขึ้นพูด แต่ไม่เชิญเขาพูด ทั้งๆ ที่
ภาษาอังกฤษเขาก็ดีกว่าพระรูปนั้นมาก 
แล้วก็ทำหน้าแบบเหยียดๆ 

ครั้งที่สอง ฟังที่ สนง.กัลยาณมิตรโชคชัย 4 
ก็พูดกระแนะกระแหน วัดตัวเองอีกว่า
ที่พูดว่าเป็นเทวดามาจากสวรรค์ชั้นดุสิต 
เพื่อมากอบกู้พระศาสนา แบบหัวเราะขำๆ
ว่าเชื่อไปได้ยังไง ผมก็คิดว่าไม่เห็นจะแปลก 
ก็ในพระไตรปิฎกก็มีเขียนไว้ว่าพระโพธิสัตว์ 
ส่วนใหญ่ ก็อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต หากพวกเรา
จะเป็นพระโพธิสัตว์ก็ไม่เห็นจะแปลก 
ขนาดฉันยังปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเลย!!!

ครั้งที่สาม ฟังที่ดอยสุเทพ 
พวกเราตั้งใจไปนั่งสมาธิ แต่ถ้าพระมโน
มาเป็นพระอาจารย์เมื่อไหร่ ไม่ได้นั่งหรอก 
เพราะแกไม่ชอบนั่ง ชอบโม้ให้ฟัง 
แกก็เล่าเรื่องพระเจ้าอโศก แกบอกว่า 
แกไม่เชื่อหรอกว่าพระเจ้าอโศก
เป็นผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา ที่ตำราบอก
ว่าพระเจ้าอโศก สั่งจับพระปลอมสึก
เป็นจำนวนมาก แกว่าพระเจ้าอโศก
ต้องการกำจัดและควบคุมพระมากกว่า 
คงจะไม่ใช่พระปลอม เรียกว่าความคิด
เขาเพี้ยนหลุดกรอบไปเยอะมากกกกกก!!!

ครั้งสุดท้าย ที่ผมได้เจอแก...
คือหลังจากที่แกไปวุ่นวายกับกรณีฆ่าหมู่พระ
ที่วัดพรหมคุณาราม รัฐอริโซ่น่า 
แกไม่เชื่อว่า นายโจนาธานดูดี้เป็นคนฆ่า 
ก็มาขอเงินจากวัดหลายสิบล้าน
เพื่อไปจ้างทนายมาสู้คดี แต่ทางวัดไม่ให้ 
เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ แกก็มาพูด
กับพวกผม (นักศึกษา) ว่าวัดเหมือนทะเลคือ 
น้ำเยอะแต่เค็ม กินไม่ได้ จึงมาบอกบุญพวกเรา 
เปรียบว่าต้องมารวบรวมจากน้ำบ่อเล็กบ่อน้อย 
โดยขายหนังสือที่แกเขียนเกี่ยวกับคดีนี้
ชื่อ "หยดเลือดบนจีวร" ขายเล่มละ 200 บาทมั๊ง 
ผมก็ช่วยซื้อไปไม่รู้กี่เล่ม 

หลังจากนั้นไม่นาน แกก็ออกจากวัดไป 

และก็ได้ข่าวว่าไปอยู่วัดไหน ก็โดนไล่ 

จบเรื่องราวชีวิตของผม บางส่วน
ที่ได้เกี่ยวข้องกับนายมโน ภิกษุโมฆะบุรุษ
ในศตวรรษนี้ เรื่องราวทั้งหมด เป็นเหตุการณ์
ที่ผมไม่ได้นั่งฟังคนเดียว เพราะมีเพื่อนๆ 
ญาติโยมนั่งฟังอยู่ด้วยมากมาย 
บางคนอาจจะละโลกไปแล้ว 
บางคนอาจจะออกนอกวงโคจรไปแล้ว 
บางคนอาจจะลืมไปแล้ว แต่ผมยังไม่ลืม 
จึงเอามาถ่ายทอดเขียนเป็นประวัติศาสตร์ไว้ 
ที่เขียนเป็นความจริงทุกประการ!!!!


Cr:Somchet J.Mhin

ความจริงย่อมเป็นความจริงวันยังค่ำ
คนชั่ว...ใส่ความมั่วๆ เที่ยวเล่าไปทั่ว
ยังไงความเลวมันก็ปิดไม่อยู่หรอกครัช!!!


ไม่มีความคิดเห็น: